ปลัดขิกบินได้ เครื่องรางหลวงพ่อยิด
พันธุ์แท้พระเครื่อง
ราม วัชรประดิษฐ์
ปลัดขิก
นับเป็นเครื่องรางของขลังที่ได้รับความนิยมอย่างหนึ่งสำหรับคนไทย
ซึ่งมีการจัดสร้างกันหลายสำนัก แต่ที่มีความโดดเด่นเป็นที่นิยมแสวงหากันมาก
โดยเฉพาะบรรดาตำรวจทหาร ก็ต้องยกให้ "ปลัดขิกหลวงพ่อยิด" วัดหนองจอก
ต.ดอนยายหนู อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
หลวงพ่อยิด จันทสุวัณโณ
หรือ พระครูนิยุตธรรมสุนทร เกิดเมื่อปี พ.ศ.2476 ในตระกูลศรีดอกบวบ อายุได้
6 ขวบ บิดามารดานำไปฝากเป็นศิษย์ พระอาจารย์หวล ผู้เป็นหลวงน้า
ที่วัดนาพรหม และได้บรรพชาเป็นสามเณรตอนอายุ 9 ขวบ โดยมี พระอธิการหวล
เป็นอุปัชฌาย์ ศึกษาอักขระเลขยันต์และฝึกปฏิบัติสมาธิกับ พระอธิการหวล และ
ครูหลี แม้นเมฆ
ท่านสนใจในด้านวิชาอาคมและสักยันต์ เป็นพิเศษ
และได้ออกธุดงค์กับพระอุปัชฌาย์ตั้งแต่ยังเป็นสามเณรถึง 4 ปี
จากนั้นได้ลาสิกขามาช่วยบิดามารดาทำไร่
ในช่วงนี้เองที่ท่านเริ่มมี
ชื่อเสียงจากการ "สักยันต์" เนื่องจากเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน
ได้ลองให้สักยันต์ให้
แล้วเกิดมีประสบการณ์มากมายจนเล่าสู่กันปากต่อปากและมีผู้มาสักยันต์มากขึ้น
ขณะนั้นหลวงพ่อมีอายุประมาณ 17-19 ปี เท่านั้น
พออายุครบ 20 ปี
จึงได้เข้าพิธีอุปสมบท มี หลวงปู่อินทร์ วัดยาง เป็นพระอุปัชฌาย์ และ
พระอธิการหวล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่ศุข
วัดโตนดหลวง เพื่อศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติม และยังได้ออก
ธุดงควัตรไปตามสถานที่วิเวกต่างๆ
จนเลยไปถึงฝั่งพม่านานหลายปีจนได้กลับมาวัดนาพรหม ในปี พ.ศ.2487
เมื่อ
ได้ทราบข่าวบิดาป่วยจึงคอยดูแลจนกระทั่งบิดาเสีย
และลาสิกขาออกมาเพื่อดูแลมารดาซึ่งแก่ชรามาก บรรดาลูกศิษย์เก่าๆ
พอรู้ข่าวก็ได้มาสักยันต์กันเพิ่มขึ้นจนช่วงนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังมาก
เมื่อโยมมารดาถึงแก่กรรมใน ปี พ.ศ.2518
ท่านจึงได้เข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้งที่วัดเกาะหลัก โดยมี หลวงพ่อเปี่ยม
เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา "จันทสุวัณโณ" เช่นเดิม
จากนั้นไปจำ
พรรษาเป็นพระลูกวัดที่วัดทุ่งน้อย อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
ต่อมาชาวบ้านหนองจอก ต.ดอนยายหนู ทราบข่าวจึงยกที่ดินพื้นที่ป่าให้จำนวน 21
ไร่ 2 งาน เพื่อให้ท่านสร้างวัดขึ้น
เมื่อบรรดาลูกศิษย์ที่ได้รับการสักยันต์และพวกที่เคยได้รับการรักษายา
สมุนไพรได้ทราบข่าวต่างก็มาร่วมกันถางป่า
พัฒนาจากพื้นที่รกทึบจนสร้างกุฏิและเสนาสนะขึ้นเป็นสำนักสงฆ์
และต่อมาได้พัฒนาเป็นวัดหนองจอกในปัจจุบัน
หลวงพ่อยิดได้ชื่อว่าเป็น
นักพัฒนา ได้พัฒนาวัดหนองจอกจนเจริญรุ่งเรือง
นอกจากนี้ท่านยังพัฒนาจิตใจและการศึกษาของเยาวชน
โดยสนับสนุนด้านทุนการศึกษา ทุนอาหารกลางวันแก่โรงเรียนหลายแห่งใน
จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งร่วมสร้างสาธารณ
ประโยชน์แก่สถานที่ราชการและหน่วยราชการต่างๆ มากมาย
จนได้รับความ
เลื่อมใสศรัทธาจากบรรดานายทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป
พร้อมกันนั้นได้ขอรับวัตถุมงคล อาทิ ตะกรุด พระเครื่อง ฯลฯ
เนื่องจากเชื่อกันว่าวัตถุมงคลของท่านมีพุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม
แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2538
สิริอายุ 71 ปี พรรษา 30
วัตถุมงคลที่ขึ้นชื่อก็คือ "ปลัดขิก"
ที่เล่ากันว่าสร้างปาฏิหาริย์บินได้
จนเป็นที่นิยมกว้างขวางในหมู่ทหารและตำรวจ เพราะมีคติความเชื่อว่า
"ใครมีปลัดขิกของหลวงพ่อยิดติดตัวแล้ว จะดีเด่นในด้านเมตตามหานิยม
และแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง" อีกทั้งผู้บูชาได้ประสบเหตุการณ์ต่างๆ
เป็นที่ปรากฏ
ชื่อเสียงของหลวงพ่อยิดจึงโด่งดังมากตั้งแต่เมื่อครั้งที่ท่านมีชีวิตอยู่จน
ถึงปัจจุบัน ถึงแม้ หลวงพ่อยิดท่านได้ละสังขารไปแล้ว แต่วัตถุมงคลของ
หลวงพ่อยิดก็ยังคงเป็นที่นิยมเล่นหาบูชากันอย่างกว้างขวาง
ปลัดขิก
หลวงพ่อยิด มีทั้งที่วัดแกะเองและชาวบ้านแกะมาถวาย มีอาทิ รุ่นเสาร์ 5
พ.ศ.2536, รุ่น เสกตะปูถอน ไตรมาส พ.ศ.2535
และปลัดขิกเนื้อโลหะที่ได้รับความนิยมอย่าง รุ่นเจริญพร พ.ศ.2537
ตอนนี้เนื้อทองคำอยู่ที่หลักหมื่นปลายๆ เนื้อนวะ เนื้อเงิน และเนื้อทองแดงอยู่ในหลักพันต้นๆ แล้วครับผม
ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ ข่าวสด ค่ะ
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ http://เว็บพระ.net/index.php
คอลัมม์ข่าวนี้ทางเว็บเราไม่มี วัตถุมงคล หรือ พระเครื่องให้เช่าบูชา ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น