หลวงพ่อไซร้ ติสสโร พระเกจิดัง-อุตรดิตถ์
อริยะโลกที่ 6
"พระครูนิกรธรรมรักษ์" หรือ "หลวงพ่อไซร้ ติสสโร" อดีตเจ้าอาวาส วัดช่องลม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังในอดีต
ท่าน
มีนามเดิม "ไซร้ ทิพยาวงษ์" เป็นบุตรคนที่ 5 ของขุนนิกรรักษา กับนางแท่น
ทิพยาวงษ์ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ก.พ.2436 ที่บ้านหนองเหี้ย ต.หาดงิ้ว
อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันรวม 7 คน
สมัย
หนุ่มท่านเป็นคนหน้าตาดี มีสง่าราศี รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวสะอาด
อัธยาศัยดี สงบเสงี่ยม กิริยาวาจาสุภาพเรียบร้อย มีเมตตาธรรมต่อผู้อื่นเสมอ
ก่อน
อุปสมบทได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์วัดอยู่กับ "หลวงพ่อฮวบ"
เจ้าอาวาสวัดสามัคคยาราม
และได้ศึกษาเล่าเรียนภาษาไทยและภาษาขอมจนมีความรู้แตกฉาน
และยังมีความชำนาญนำไปใช้ในการศึกษาธรรมะได้เป็นอย่างดี
ต่อมาได้ออก
จากวัดหาดงิ้ว กลับไปอยู่บ้านช่วยเหลือบิดา-มารดา
ประกอบอาชีพทำนาทำไร่อยู่ได้ระยะหนึ่ง จนกระทั่งอายุ 16 ปี
ด้วยนิสัยใฝ่เรียนรู้ด้านธรรมะ และมีความรักในสมณเพศ
จึงบรรพชากับพระอธิการก้อน เจ้าอาวาสวัดช่องลม เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2452
อา
ยุครบ 20 ปี เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดช่องลม ต.หาดงิ้ว อ.เมือง
จ.อุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2456 มี พระอธิการขีด วัดกุมภีร์ทอง
ตำบลบ้านด่าน เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการจ้อน เป็นพระกรรมวาจาจารย์
และพระอธิการป้อม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา "ติสสโร"
ภายหลัง
อุปสมบท ตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรมเอาใจใส่กิจวัตร
เคร่งครัดในพระธรรมวินัยอย่างยิ่ง
โดยอยู่ปฏิบัติพระอุปัชฌาย์ที่วัดกุมภีร์ทองเป็นเวลา 4 พรรษา
ก่อนย้ายไปจำพรรษาที่วัดดอยแก้ว ต.แสนตอ อ.เมือง และที่วัดหาดงิ้ว
ศึกษาวิทยาคมกับหลวงพ่อฮวบ ที่วัดหาดงิ้ว จนมีความรู้อย่างแตกฉาน
จาก
นั้นย้ายไปอยู่วัดช่องลมในเวลาต่อมา พระครูวิเชียรปัญญามหามุนี (เรือง)
เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าอาวาสวัดท่าถนนในสมัยนั้น
พิจารณาเห็นว่าหลวงพ่อไซร้ เป็นที่เคารพนับถือของบรรพชิตและคฤหัสถ์
จึงแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดช่องลม ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2462
ภาย
หลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดช่องลม ท่านเอาใจใส่ในการก่อสร้าง
และปฏิสังขรณ์เสนาสนะ
วางระเบียบแผนผังของวัดที่ท่านพำนักจนเป็นที่เรียบร้อย
ดังปรากฏหลักฐานมาจนถึงทุกวันนี้ เช่น หอไตร อุโบสถ หอสวดมนต์
ศาลาการเปรียญ พระวิหาร เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ กำแพงรอบวัด
โรงเรียนปริยัติธรรม และโรงเรียนประชาบาลวัดช่องลม
การก่อสร้างและการปฏิสังขรณ์ดังกล่าว รวมทั้งอุโบสถของวัดหาดงิ้ว
ศาลาการเปรียญวัดสามัคคยาราม และอุโบสถของวัดดอยท่าเสา เป็นต้น
เมื่อ
ปี พ.ศ.2484 ประเทศไทยเข้าสู่สงครามอินโดจีนและมหาสงครามโลกครั้งที่ 2
ประชาชนชาวอุตรดิตถ์ ต่างอยากได้ของดีของขลังไว้คุ้มครองตัว ด้วยเหตุนี้
หลวงพ่อไซร้ได้จัดสร้าง "พระปิดตา" เนื้อผงมหาอุดผสมว่านคงกระพันเคล้ารัก
และปลุกเสกด้วยพระคาถา "โสฬสมหาอุดมหาสะท้อน" ซึ่งเชื่อกันว่าผู้ที่คิดร้าย
ปองร้าย จะถูกสะท้อนเข้าหาตัวเอง
หลวงพ่อไซร้ มรณภาพเมื่อวันที่ 17 ต.ค.2507 สิริอายุ 71 ปี พรรษา 51
ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ ข่าวสด ค่ะ
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ http://เว็บพระ.net/index.php
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น