หลวงพ่อประพิน ฉันทโก พระวิปัสสนา-นักพัฒนา
คอลัมน์ อริยะโลกที่6
เชิด ขันตี ณ พล
"พระครูประภาสธรรมรังษี" หรือ "หลวงพ่อประพิน ฉันทโก"
เป็นพระนักปฏิบัติที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย และยังเป็นพระนักพัฒนา
ทำให้เป็นที่นับถือศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนในจังหวัดมหาสารคามและใกล้เคียง
ปัจจุบัน อายุ 67 พรรษา 47 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแสงสว่างบุ่งคล้า ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง จ.มหาสารคาม และเป็นเจ้าคณะตำบลลาดพัฒนา
มีนามเดิมว่า ประพิน สอนสุชน เกิดเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2490 ที่บ้านบุ่งคล้า ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง จ.มหาสารคาม
วัยเยาว์เรียนหนังสือจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดบ้านบุ่งคล้า ก่อนย้ายตามครอบครัวไปทำมาหากินที่จังหวัดอุดรธานี
ครั้น
เมื่ออายุได้ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดเรียบธายาราม
ต.กุดจับ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมีพระครูสถิตธรรมรัต เป็นพระอุปัชฌาย์,
พระอาจารย์แหวน สุวัณโณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
หลังจากนั้นท่านได้จำ
พรรษาอยู่ที่วัดบรมสมพร อ.กุดจับ จ.อุดรธานี
ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยและพระปริยัติธรรม
สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก
นอกจากนี้ ยังเรียนสายสามัญสอบได้ชั้น ม.ศ.3 จากโรงเรียนวัดศรีจันทร์ จ.ขอนแก่น และสอบชุดวิชาครูพ.ก.ศ. ได้ในปีพ.ศ.2523
พ.ศ.2524 วัดแสงสว่างบุ่งคล้า ขาดแคลนพระผู้ใหญ่ที่จะพัฒนาวัด บรรดาญาติโยมจึงได้ไปนิมนต์หลวงพ่อประพิน ให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาวัด
ปกครอง
วัดแสงสว่างบุ่งคล้า ทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนาวัดแห่งนี้
ให้เจริญรุ่งเรืองในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นสาธารณูปการปรากฏให้เห็นมากมายใน
เวลาเพียงไม่กี่ปี อาทิ อุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอระฆัง กุฏิ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับชุมชนพัฒนาตัดถนนเชื่อมหมู่บ้านใกล้เคียงถึง 7 สาย ทำให้การไปมาหาสู่กันสะดวกมากยิ่งขึ้น
ส่วนด้านการศึกษา หลวงพ่อตั้งสำนักเรียนขึ้นที่วัดแสงสว่างบุ่งคล้า พร้อมกับรับหน้าที่เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมมาโดยตลอด
หลวง
พ่อประพินเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก
พระภิกษุสามเณรที่มาเรียนกับท่านจะต้องประพฤติอยู่ในกรอบพระธรรมวินัยอย่าง
เคร่งครัด ทำให้สำนักเรียนแห่งนี้มีชื่อเสียงขจรไกล
แต่ละปีมีพระภิกษุสามเณรมาจำพรรษาศึกษาเล่าเรียนเป็นจำนวนมาก
พร้อม
จัดหาทุนการศึกษาให้พระภิกษุสามเณรที่เรียนดี
ส่วนผู้เรียนไม่ดีหากปฏิบัติงานอื่นๆ มีความรับผิดชอบในหน้าที่สูง
จะมีรางวัลเป็นกำลังใจให้เช่นกัน
ตั้งหน่วยอบรมประจำตำบล
และหน่วยอบรมเคลื่อนที่ออกอบรมประชาชนตามหมู่บ้าน ตามโรงเรียนต่างๆ
รวมทั้งมอบทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียนทุกปี
เนื่องจากหลวงพ่อเป็น
พระหน่วยพัฒนาการทางจิตรุ่นที่ 11 ของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย
กรุงเทพฯ จึงต้องออกเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปตามชุมชนหมู่บ้านต่างๆ
บางครั้งนำภาพยนตร์ธรรมะไปฉายทั่วภาคอีสาน อาทิ นครราชสีมา อุดรธานี
และมหาสารคาม ฯลฯ
ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2538
ได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลลาดพัฒนา พ.ศ.2544
ได้รับพระราชทานพัดยศเจ้าคณะตำบลชั้นโท
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2530 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นโทที่ พระครูประภาสธรรมรังสี
ด้วย
คุณงามความดีที่ทำปรากฏมากมาย
ท่านได้รับโล่รางวัลอนุรักษ์สมุนไพรตามโครงการพระราชดำริ
และได้เข้ารับรางวัลสาขาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาดีเด่นจากสมเด็จพระเทพรัตนราช
สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปี 2543
จึงเป็นเนื้อนาบุญของชาวมหาสารคามอย่างแท้จริง
ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ ข่าวสด ค่ะ
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ http://เว็บพระ.net/index.php
คอลัมม์ข่าวนี้ทางเว็บเราไม่มี วัตถุมงคล หรือ พระเครื่องให้เช่าบูชา ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น