วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

พระวิสุทธิสมาจาร วัดอ่างศิลา จ.ชลบุรี

พระวิสุทธิสมาจาร วัดอ่างศิลา จ.ชลบุรี

อริยะโลกที่ 6

พระวิสุทธิสมาจาร (ศรี พรหมโชติ) อดีตเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี และอดีตเจ้าอาวาสวัดอ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคตะวันออก อ.เมือง จ.ชลบุรี ที่มีความเชี่ยวชาญวิทยาคมและเป็นเจ้าตำรับวัตถุมงคลพระปิดตาหลังกระบองไขว้ อันเลื่องชื่อแห่งยุค

มีนามเดิมว่า ศรี ยูถะสุนทร เกิดเมื่อวันที่ 28 เม.ย.2414 ที่ ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี บิดา-มารดาชื่อ นายทองและนางเอียง ยูถะสุนทร

อายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดอ่างศิลา มีพระอธิการยิ้ม วัดอ่างศิลา เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการแสง วัดอ่างศิลา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูสุวรรณาทร (เที่ยง) เป็นพระอนุสาวนาจารย์

เป็นพระเถระที่มีศีลาจารวัตรอันดี งาม เป็นผู้เคร่งครัดต่อพระธรรมวินัย ถือกิจการงานพระศาสนาเป็นใหญ่ ไม่คำนึงถึงสังขารของท่านเองว่าเป็นอย่างไร ถึงแม้ยามเมื่อท่านชราภาพมาก เดินไม่ค่อยไหว ยังอุตส่าห์นั่งรถเข็นให้พระภิกษุสามเณรช่วยเข็นลงอุโบสถเป็นประจำ เว้นไว้แต่อาพาธหนักเท่านั้น

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2449 รักษาการเจ้าอาวาสวัดอ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี พ.ศ.2451 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอ่างศิลา พ.ศ.2453 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2456 เป็นเจ้าคณะแขวงอำเภอเมือง

พ.ศ.2459 ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี และเจ้าคณะแขวงอำเภอศรีราชา พ.ศ.2476 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะแขวงอำเภอบางละมุงอีกตำบลหนึ่ง

พ.ศ.2482 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2456 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่ พระครูสุนทรธรรมรส

พ.ศ.2495 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนามที่ พระวิสุทธิสมาจาร
นอก จากเป็นพระเถระที่มีความเชี่ยวชาญด้านพระธรรมวินัยและพระปริยัติธรรม ท่านยังเป็นผู้ทรงวิทยาคมแก่กล้าเชี่ยวชาญ ด้วยได้รับการถ่ายทอดวิชาจากพระอธิการยิ้มและพระอาจารย์แสง ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งกล้าด้านพุทธาคม

นอกจากนี้ ท่านยังได้ศึกษาการทำเครื่องรางของขลังคือ ตะกรุด กับพระอธิการจั่น ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย กับหลวงพ่ออี๋แห่ง วัดสัตหีบ 2 พระเกจิอาจารย์เจ้าตำรับเขี้ยวเสือกับปลัดขิกอันโด่งดัง

พ.ศ.2468 วัดอ่างศิลาได้จัดสร้างเหรียญรูปเหมือนหลวงปู่ศรี เนื่องในงานสร้างโรงเรียน นับ ได้ว่าเป็นวัตถุมงคลรุ่นแรกของท่าน

กระ ทั่งพ.ศ.2500 ท่านได้สร้างวัตถุมงคลพระปิดตาครั้งแรก ประกอบด้วยพระปิดตา รุ่นลองพิมพ์ คือ สร้างเพื่อให้หลวงปู่ศรีพิจารณา แต่รูปพิมพ์ไม่ค่อยสวย หลวงปู่จึงดำริให้สร้างพิมพ์ใหม่ มีน้อยมาก เพียงไม่กี่สิบองค์เท่านั้น, พระปิดตาหลังยันต์กระบองไขว้ โดยใช้ยันต์กระบองไขว้เป็นหลัก แต่กดพิมพ์ได้ 2 วัน บล็อกชำรุด จึงสร้างบล็อกใหม่, พระปิดตาหลังอิอะ, พระปิดตาหลังเรียบ, พระปิดตาพิมพ์แม่ครัว หรือพิมพ์จิ๋วหลังเรียบ

พระปิดตารุ่น 2 เรียกว่า พิมพ์นักกล้าม พระปิดตา รุ่น 3 พิมพ์สุรพล พิมพ์นิยม

ผง ที่หลวงปู่ศรีนำมาสร้างวัตถุมงคล เก็บรวบรวมผงดินสอที่เขียนอักขระบนกระดานดำสอนบาลีไวยากรณ์แก่พระภิกษุ สามเณรในวัด นำมาผสมกับผงอักขระคุณพระที่เรียกว่า ผงพุทธคุณ หรือ ผงมหาราช อันประกอบด้วย ผงอิทธิเจ ผงปถมัง กลายเป็นผงอิทธิฤทธิ์ พร้อมทั้งได้นำเกสรดอกไม้ ใบไม้ เปลือกไม้ และเนื้อไม้ บดให้ละเอียด แล้วผสมกับผงวิเศษอิทธิฤทธิ์

เมื่อผสมผงรวมกันได้ดีแล้ว ได้ใช้น้ำยางรักผสมเข้ากับผงประสานให้ผงยึดแน่น

ขณะเดียวกันก็นำเอาใบลานหรือคัมภีร์เก่าที่เก็บสะสมไว้ เผาบดรวมกับพระปิดตาที่ท่านสร้างไว้ด้วย

ต่อมาได้สร้างพระปิดตาขึ้นอีก 2 รุ่นคือ ในปีพ.ศ.2504 และพ.ศ.2507 นับเป็นรุ่นสุดท้ายของท่าน

หลวงพ่อศรี มรณภาพเมื่อวันที่ 4 ส.ค.2510 สิริอายุ 97 ปี พรรษา 77

ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ ข่าวสด ค่ะ
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่
http://เว็บพระ.net/index.php

คอลัมม์ข่าวนี้ทางเว็บเราไม่มี วัตถุมงคล หรือ พระเครื่องให้เช่าบูชา ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น