วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จ วัดระฆัง "พ.อ.นรชัย ภาเวส"

พระสมเด็จ วัดระฆัง "พ.อ.นรชัย ภาเวส"

พระเครื่องคนดัง

"ผม สะสมพระเครื่องเพื่อเป็นสิ่งยึด เหนี่ยวจิตใจ พระเครื่องเปรียบเสมือนตัวแทนพระพุทธองค์ ที่ท่านสอนให้เราคิดดี ทำดี ปฏิบัติดี เป็นการเตือนสติให้กระทำ แต่ความดี ประพฤติดี ละเว้นการทำความ ชั่วหรือการกระทำที่ผิดศีลธรรม และเชื่อ ว่า การกระทำความดีนั้นไม่มีที่สิ้นสุดทำ ได้ตลอดเวลา ที่ยังมีลมหายใจอยู่" เป็นคติความเชื่อของ "พ.อ.นรชัย ภาเวส" รองเจ้ากรมสวัสดิการทหารบก

พ.อ.นรชัย หรือที่พี่น้องในแวดวงทหารหาญ เรียกขานด้วยความสนิทสนมว่า "เสธ.นร" เป็นอีกหนึ่งนายทหารที่ชื่นชอบสะสมพระเครื่อง

เสธ.นร เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 18 (ตท.18) ที่ผ่านราชการภาคสนามมามากมาย ชื่นชอบสะสมพระเครื่องมานาน

พ.อ.นรชัย บอกเล่าถึงการสะสมวัตถุมงคล ว่า "การสะสมพระเครื่องของผมนั้น ส่วนใหญ่ไม่ได้ไปหาเช่าบูชาที่ไหนเลย มีแต่ผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพนับถือมอบให้มาทั้งสิ้น ซึ่งผมคิดว่า ผู้ที่ให้พระมานั้น คือ ผู้ที่รักและปรารถนาดีกับตัวเรา มีความตั้งใจที่ดี เมื่อได้รับมาก็ถือว่า เป็นสิ่งที่มีคุณค่า เป็นสิริมงคลกับตัวมาตลอด"

สำหรับ พระที่แขวนขึ้นคอติดตัว พ.อ.นรชัย มีอยู่หลายองค์ ซึ่งพระเครื่องส่วนใหญ่ที่สะสมเป็นพระสมเด็จ พระในชุดเบญจภาคี และพระพุทธชินราช

"จะว่าไปแล้ว ผมมีความคุ้นเคยกับพระเครื่องมานานกว่า 40 ปี เพราะสมัยคุณปู่ ท่านเป็นคนชอบสะสมและแลกเปลี่ยนพระเครื่องวัตถุมงคล ผม ก็ชอบเดินตามคุณปู่ถือกระป๋องนมที่ใส่พระเครื่อง เดินไปย่านสะพานควาย นั่งตามร้านกาแฟ ใครไปใครมาก็มานั่งส่องพระกัน จนทำให้ผมได้รับความรู้เรื่องพระเครื่องติดตัวไปด้วยตั้งแต่นั้นมา

ผม คิดอยู่เสมอว่าพระทุกองค์ที่คล้องอยู่ในคอ มีพุทธคุณที่ดี ก่อนเดินทางออกจากบ้าน ก็จะอาราธนาท่านเพื่อให้คุ้มครอง ให้แคล้วคลาด ปลอดภัย ซึ่งทำให้เรามีกำลังใจ และมั่นใจในการทำงาน"

ความเชื่อส่วน ตัวของพ.อ.นรชัย เชื่อว่า พระเครื่องทุกองค์ท่านมีพุทธคุณที่ดีมากอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นมวลสารที่ผสมอยู่ในองค์พระ ที่เป็นมวลสารที่สิริมงคล ประกอบกับการจัดทำพิธีพุทธาภิเษก ที่มีการสวดบทวิชาคาถา ที่เป็นสิริมงคล ทั้งสิ้น พระที่มาร่วมพิธีนั่งปรกอธิษฐานจิต ก็เป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ หรือเป็นพระสุปฏิปันโนอยู่แล้ว

ปัจจุบัน พ.อ.นรชัย เก็บสะสมเครื่องรางของขลัง ซึ่งเป็นมรดกของคุณพ่อ อาทิ เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน, หนุมานหลวงพ่อสุ่น ด้วยมีอำนาจบารมีอยู่ในเนื้อมวลสารของเครื่องรางนั้นอยู่แล้ว ส่วนใหญ่แล้วตนจะเปลี่ยนการคล้องพระเป็นประจำทุกเดือน เพราะพระสมเด็จของตนเองมีหลายองค์ เช่น พระสมเด็จวัดระฆัง พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม หรือพระสมเด็จวัดเกศชัยโย จะสลับเปลี่ยนกันคล้อง ซึ่งบารมีของแต่ละองค์ มีพุทธคุณที่ดีมาก

เสธ.นรบอกเล่าว่า "ช่วงเวลาว่าง ผมมักนำพระเครื่องมาส่องดู เพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพราะส่วนใหญ่ พระที่ได้มาก็ได้มาจากผู้ใหญ่ เพื่อนๆ และลูกน้อง พระที่ได้ทุกองค์ ผมถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่า ที่เขาตั้งใจมอบมาให้เรา ต้องเก็บรักษาไว้อย่างดี และนำทุกองค์มาศึกษาดูประวัติ เพื่อเป็นความรู้"

"ทหาร เป็นรั้วของชาติ ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามชายแดนปกป้อง อธิปไตยที่ต้องตื่นตัวและมีความเสี่ยงอยู่ทุกขณะ ทำให้ต้องไขว่คว้าหา สิ่งยึดเหนี่ยวใจ ซึ่งใจชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในช่วงของชีวิตนั้น เมื่อทราบว่าที่ใดมีพระอาจารย์หรือเกจิอาจารย์ที่ประพฤติปฏิบัติดี ก็จะไปกราบฝากตัวเป็นลูกศิษย์หรือขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลจากท่าน"

เส ธ.นรกล่าวทิ้งท้ายว่า หากเรามีสะสมไว้ก็ควรที่จะศึกษาถึงประวัติ และอย่าลืมว่าพระเครื่องเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้เราคิดดี ทำดี และระลึกถึงพระคุณขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ ข่าวสด ค่ะ
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่
http://เว็บพระ.net/index.php

คอลัมม์ข่าวนี้ทางเว็บเราไม่มี วัตถุมงคล หรือ พระเครื่องให้เช่าบูชา ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น