วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

'คด'กะลามหาอุตม์กะลาวิเศษที่ต้องแลกด้วยเงิน'แสน!' : เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

'คด'กะลามหาอุตม์กะลาวิเศษที่ต้องแลกด้วยเงิน'แสน!'

'คด'กะลามหาอุตม์กะลาวิเศษที่ต้องแลกด้วยเงิน'แสน!' : เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
              กะลาสามตา กะลาตาเดียว แกะเป็น พญาราหู และคดกะลาทำเป็นขวดใส่ยาดม ยาหอม มีคติความเชื่อว่าเป็นของคงทนสิทธิ์ เป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อยู่บนต้นมะพร้าว อาจจะนับได้ว่าเป็นเครื่องรางที่หายากสุดๆ มะพร้าว ๑,๐๐๐ ลูก หรือ ๑๐,๐๐๐ ลูก จะมีก็เพียงลูกเดียวหรือสองลูกเท่านั้นที่พบ

              ในตำราทักษามหาพยากรณ์นั้น กล่าวว่า เมื่อบุคคลใดก็ตามถูกพระราหูเสวยอายุแล้ว ในช่วงเวลานั้นจะเกิดความรุ่มร้อน มีเคราะห์ต่างๆ นานา เพราะพระราหูนั้นเป็นความมืด เป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว แม้ยามที่พระราหูจะจรพ้นจากการเสวยอายุไปก็ยังแผลงฤทธิ์อีกด้วย คณาจารย์โบราณจึงกำหนดเอาไว้ว่า เมื่อพระราหูเสวยอายุจักต้องทำพิธีต้อนรับพระราหู หาไม่จะเดือดร้อนจนไม่อาจประคองตัวได้ และสิ่งหนึ่งที่โบราณใช้เป็นเครื่องรางบรรเทาฤทธิ์เดชของพระราหูคือ กะลาตาเดียว

              พระราหูพระราหู ไม่ใช่ยักษ์มาร ผีโขมด ไม่ใช่ความหลงมัวเมาในตัณหา ไม่ใช่ความโง่เขลาเบาปัญญา แท้จริงแล้ว พระราหูคืออะไร ในสมัยโบราณ เมื่อคนเรามีความรู้ในทางดาราศาสตร์ยังไม่กว้างขวาง คราใดเกิดปรากฏการณ์ จันทรคราส หรือ สุริยคราส ก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องพระราหูใส่จับพระจันทร์และพระอาทิตย์ เมื่อจับได้ก็จะอมไว้ บังเกิดความมืดปกคลุมไปทั่ว หรือเกิดความกลัวว่า พระจันทร์ พระอาทิตย์ จะดับไปชั่วนิรันดร์ จึงต้องช่วยกันแก้ไขด้วยการตีเกราะ เคาะกะลา จุดประทัด ยิงปืน นัยว่าเพื่อทำให้พระราหูตกใจกลัว จะได้คายพระจันทร์ พระอาทิตย์ รีบหลบหนีไป

              โบราณนั้นท่านถือกันว่า พระราหูจะปรากฏในคราวเกิดจันทรุปราคา พระราหูจะกลืนพระจันทร์เอาไว้ทั้งดวงบ้าง บางส่วนบ้าง ต้องตีเกราะเคาะไม้หรือยิงปืนไล่กันเอกเกริก ส่วนวิธีป้องกันพระราหูนั้นก็คือ การใช้กะลาจากมะพร้าวตาเดียวหรือไม่มีตามาทำเป็นเครื่องรางเอาไว้ก็จะบรรเทา โทษภัยจากพระราหูไปได้ กะลาตาเดียวนั้นหายากในมะพร้าว ๑,๐๐๐ ลูก ๑๐,๐๐๐ ลูก จะมีก็เพียงลูกเดียวหรือสองลูกเท่านั้น เมื่อได้มาก็ถือว่าเป็นโชคของผู้นั้น เพราะโดยปกติลูกมะพร้าวที่พบเห็นโดยทั่วไปนั้นจะมีรูงอกหนึ่งรู และมีตาสองตา รวมแล้วมีสามรูด้วยกัน

              อย่างไรก็ตามหากเป็นกะลาตาเดียวแล้วจะมีเพียงหนึ่งตา หรือถ้าไม่มีตาก็จะมีรูงอกเพียงรูเดียว เขาเรียกว่า กะลาตาบอด แต่ถ้าไม่มีทั้งรูงอกและตาเลยนั้น โบราณเรียกกันว่า กะลามหาอุตม์ ถือเป็นหนึ่งในเครื่องรางของขลังตามธรรมชาติที่หายากสุดๆ ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก เพราะลำพังกะลาตาเดียวก็หายากสุดๆ อยู่แล้ว เรียกว่าจะเป็นหนึ่งในแสนในล้านลูกถึงจะเจอสักลูกหนึ่ง ด้วยเหตุนี้พระเกจิอาจารย์จึงนิยมนำรูปลักษณ์ของพระราหูนำมาแกะเป็นลงบนกะ ลามหาอุตม์ และคดกะลามหาอุตม์ด้วย

คุณวิเศษแห่งกะลาตา

              "ป้องกันภัยอันตรายต่างๆ มีโชคลาภ โภคทรัพย์ คนโบราณเก่าก่อนนิยมเอากะลาตาเดียวมาผ่าออกเป็นสองซีก ใช้ตักตวงข้าวสารกรอกหม้อ ว่ากันว่า จะทำให้มีกินมีใช้ไม่ขาดมือ แล้วยังมีคุณวิเศษในด้านอื่นๆ อีก คณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาคมนิยมใช้กะลาตาเดียวมาสร้างวัตถุมงคล" นี่เป็นคติความเชื่อถึงคุณวิเศษของกะลาตาเดียว

              จากคติความเชื่อดังกล่าว กะลามหาอุตม์จึงถูกนำมาสร้างวัตถุมงคลส่วนมากจะถูกนำมาแกะลวดลายตัวละคร สำคัญเรื่องรามเกียรติ์ เช่นเดียวกับกะลาตาเดียวที่ปลุกเสกโดยหลวงพ่อกุน วัดพระนอน จ.เพชรบุรี ที่ลือชื่อในเรื่องของตะกรุด ซึ่งถือว่าเป็นตะกรุดที่มีราคาหาเช่าแพงที่สุดในเมืองไทย อยู่หลักแสนต้นๆ ตะกรุดของท่านจะไม่ลงอักขระเหมือนของพระเกจิอาจารย์อื่นๆ แต่ท่านจะลงเป็นรูปตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ เช่น ลงเป็นรูปหนุมานผูกผมนางมณโฑกับทศกัณฐ์เข้าด้วยกัน

              กะลามหาอุตม์จึงเป็นเครื่องรางด้วยฝีมือช่างเก่าโบราณของเรานี้ มีคุณวิเศษนานานับประการ บุคคลใดมีไว้ครอบครองก็จะปราศจากภัยอันตรายต่างๆ ไม่ว่าจะเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ เทวดา อสูร ภูตผีปีศาจ ก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้ กะลามหาอุตม์บางลูกแกะเป็นลายวิจิตรงดงามพิสดารแล้ว ยังถือว่าเป็นหนึ่งเดียวที่หายากสุดๆ อีกด้วย เรื่องราคาไม่ต้องพูดถึง บางลูกก็ต้องว่ากันเป็นหลักแสน

              นอกจากนี้ยังมีคติความเชื่อด้วยว่า กะลาที่มี ๙ ตา ๗ ตา ๕ ตา ๓ ตา และตาเดียว เป็นของคงทนสิทธิ์ พระคณาจารย์หรือผู้ที่มิวิชาอาคม ในเรื่องของไสยศาสตร์ เวชศาสตร์ มีความเชื่อกันว่า ไม่มีอำนาจใดๆ มาทำลายล้างได้ นอกจากอำนาจแห่งกรรมที่ผู้ถือครอบครองประกอบคุณงามความดีสะสมแต่กรรมดี ก็จะตอบสนองในทางที่ดีคุ้มครองดลบันดาลปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เพิ่มพูนในเรื่องของทรัพย์สินเงินทอง ความสุข ความสบาย กะลาบางลูกหาที่มาที่ไปไม่ได้ว่าเป็นของอาจารย์ใด แต่ผู้ที่ดูความเก่าเป็น ดูอักขระที่จารลงในกะลาเป็น และเป็นกะลาแท้ๆ

              สำหรับผู้ที่อยากจะชม "คดกะลา" ของจริง ทุกท่านชมและสัมผัส ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ได้ที่ร้าน “ครัวทองเรือนไทย” ถ.หัวหิน ๙๖ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สอบถามเส้นทางได้ที่ ๐๘-๑๙๘๖-๓๙๕๙

กะลาแกะหลักแสน

              ในวงการพระเครื่องยกให้กะลาแกะพระราหูอมจันทร์ ของ "หลวงพ่อน้อย คันธโชโต" วัดศีรษะทอง ต.ห้วยตะโก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นสุดยอดของกะลาแกะถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในชุดเบญจเครื่องรางและให้การ ยอมรับมาช้านาน ค่านิยมกะลาราหูของหลวงพ่อน้อยขึ้นอยู่ตามสภาพ แต่ก็ไม่ต่ำกว่าหลักหมื่น หากอยู่ในสภาพสวยสมบูรณ์ เช่น ค่านิยมอยู่ในหลักหมื่นกลางๆ บางองค์สูงถึงหลักแสนเลยทีเดียว
  
              หลวงพ่อน้อย ท่านก็เป็นชาวลาว เรียนวิชาคาถาอาคมมาจากหลวงพ่อลี เจ้าอาวาสองค์ที่ ๒ และโยมบิดา เมื่อท่านได้เป็นเจ้าอาวาสวัดแล้ว ท่านก็ได้เริ่มวางรากฐานรูปแบบและขั้นตอน ตลอดจนลวดลายการแกะกะลาพระราหูให้เป็นมาตรฐาน โดยมีการพัฒนาเป็นขั้นตอน ตามตำราในใบลานต้นฉบับ ที่สำคัญคือ ต้องเป็นกะลามะพร้าวที่มีเพียงตาเดียวเท่านั้น อ่อน หรือแก่ ไม่เป็นอะไร

              การพัฒนางานแกะ เห็นได้ว่าในยุคต้นๆ นั้น การแกะพระราหูไม่มีรูปแบบที่เป็นมาตรฐาน มีทั้งสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม รูปกลม รูปกลีบบัว ก็มี สุดแล้วแต่ช่างจะแกะกัน มีหลายขนาด ทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ แกะจากกะลาครึ่งลูก หรือแกะจากกะลาทั้งลูกก็มี แต่ส่วนใหญ่กะลาแกะพระราหูของหลวงพ่อน้อยนั้น จะมีศิลปะการแกะที่เป็นมาตรฐาน โดยใช้ช่างแกะไม่กี่กลุ่ม ซึ่งได้แก่
 
              ๑.แกะโดยฝีมือช่างที่เป็นพระภายในวัด แรกๆ ก็แกะเป็นรูปสามเหลี่ยมบ้าง สี่เหลี่ยมบ้าง วงกลมบ้างเหมือนกัน ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นแบบเดียวกัน คือ แกะเป็นรูปเสมาคว่ำ
  
              ๒.แกะโดยฝีมือช่างที่เป็นนักโทษ เรือนจำจังหวัดนครปฐม โดยหลวงพ่อน้อย ท่านมีลูกศิษย์ลูกหาเป็นผู้คุมเรือนจำ ในสมัยนั้นผู้คุมเรือนจำเป็นช่างฝีมือแกะหลายคน ซึ่งเป็นครูคอยสอนนักโทษด้วย แล้วให้นักโทษช่วยกันลองแกะพระราหูกันดู จากกะลาตาเดียว และได้คัดอันที่สวยที่สุดมาเป็นตัวอย่าง
 
              ส่วนการทำปลอมเลียนแบบ มีการทำกันมานานมากมายหลายฝีมือ แต่เชื่อว่าทุกฝีมือที่ทำปลอมยังต่างกันมากกับราหูที่สร้างจากหลวงพ่อน้อย อันเป็นตัวจริง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ งานแกะพิมพ์ วิธีการสร้างตกแต่ง ความแห้งผาก และธรรมชาติของอายุกะลา จึงเชื่อว่าการทำเลียนแบบปลอมนั้นทำได้ยากยิ่ง

ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ค่ะ
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ http://เว็บพระ.net/index.php


คอลัมม์ข่าวนี้ทางเว็บเราไม่มี วัตถุมงคล หรือ พระเครื่องให้เช่าบูชา ค่ะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น