วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ชมรมพระเครื่อง


แทน ท่าพระจันทร์

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน อาณาจักรลพบุรีเคยเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งในอดีต สมัยที่ขอมมีอำนาจอยู่ในดินแดนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและปกครองดินแดนแถบนี้ ได้สร้างโบราณสถานทั้งแบบศาสนาพุทธและศาสนาพราหมณ์ พร้อมทั้งประติมากรรมและพระพิมพ์ไว้มากมาย หนึ่งในพระพิมพ์ที่มีความสำคัญและนิยมกันมาก และถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของลพบุรีเลยก็ว่าได้ก็คือ "พระหูยาน" กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี

พระหูยานได้มีการขุดพบกันมานานแล้ว เท่าที่มีการบันทึกบอกเล่าไว้ก็คือ ในปีพ.ศ.2450 ครั้งสมัยพระยากำจัดเป็นเจ้าเมืองลพบุรี ได้มีเจ้าหน้าที่ของเรือนจำเป็นผู้บงการโดยใช้นักโทษเป็นผู้ขุด ณ บริเวณพระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

การขุดในครั้งนั้นได้พระพุทธรูปบูชาและพระเครื่องสกุลลพบุรีออกมากมาย เช่น พระร่วง พระหูยาน พระหลวงพ่อจุก พระหลวงพ่อแขก พระนารายณ์ทรงปืน พระซุ้มกระรอกกระแต พระสาม พระเขมรคางคน พระเขมรผมเวียน ฯลฯ

พระที่ขุดพบในครั้งนั้นจะเรียกกันว่าพระกรุเก่า ผิวของพระที่ได้มาในครั้งนั้นมักจะมีผิวเป็นสีคล้ำๆ ออกดำ ต่อมามีการลักลอบขุดกันอีกหลายครั้ง เช่น ในปีพ.ศ.2485 แต่ในครั้งหลังๆ ก็ไม่ค่อยได้พระกันมากนัก ต่อมามีการขุดพบครั้งใหญ่ อีกครั้งในปีพ.ศ.2508 ซึ่งเป็นการพบครั้งใหญ่ พบพระเครื่องเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพระหูยาน พระที่พบในครั้งนี้มีผิวปรอทจับขาวทั่วทั้งองค์พระ พระที่พบในครั้งนี้จึงเรียกกันว่า ?พระกรุใหม่? นอกจากนี้ก็ยังมีการพบพระหูยานอีกหลายกรุในลพบุรี เช่น พบที่กรุวัดปืน กรุคอปะ เป็นต้น ซึ่งพิมพ์ จะแตกต่างกันไปบ้าง เล็กน้อย พระหูยานที่พบใน กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุนั้นจะมีพบเป็นพิมพ์บัว สองชั้น พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก และพิมพ์รัศมี เป็นต้น ส่วนพิมพ์ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดก็คือพิมพ์ใหญ่

พระพุทธศิลปะของพระหูยาน เป็นพระประทับนั่งปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ อยู่บนอาสนะบัวเล็บช้าง 5 กลีบ ตอนบนเป็นเกสรบัวลักษณะเป็นเส้นขีดๆ สั้นๆ 15 ขีด ใต้บัวเล็บช้างลงไปเป็นฐานหน้ากระดาน พระพักตร์ของพระหูยาน พิจารณาดุษณีภาพ อันสงบนิ่งประกอบกับการสำแดงออกแห่งอาการแย้มพระโอษฐ์อย่างล้ำลึก ปรานีเยือกเย็นขององค์พระปฏิมาแล้ว ในความหมายของ ?หสิตุปาทะ? คือการยิ้มของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตามแบบอย่างศิลปะขอมที่เรียกกันว่า ?ยิ้มแบบบายน? อันเป็นที่ฉงนฉงายในความสำเร็จแห่งพุทธศิลปะบายนอันนี้ ซึ่ง อยู่ในสมัยของพระเจ้าชัยวรมัน ที่ 7 ประมาณพุทธศตวรรษที่ 18 ซึ่งเราสามารถเปรียบเทียบ กับประติมากรรมชิ้นใหญ่ที่ปราสาทนครธมที่เป็นรูปพรหมพักตร์เหนือตัว ปราสาท จะมีพุทธลักษณะแบบเดียวกันจึงทำให้สามารถกำหนดยุคสมัยของพระหูยานลพบุรีได้ครับ

สาเหตุที่มาของ ชื่อเรียกนั้นก็มาจากพระกรรณ (หู) ของพระหูยานนั้นมีใบพระกรรณทั้ง 2 ข้างยาวลงมาจรดพระอังสา (ไหล่) อันเป็นลักษณะเด่นชัด จึงเรียกขานกันมาแต่เดิมว่า ?พระหูยาน? ส่วนในคำว่าลพบุรีนั้นก็เป็นที่มาของเมืองที่พบครับ เนื้อหาของพระหูยานลพบุรีที่พบมีอยู่เนื้อเดียว คือเนื้อชินเงิน ด้านหลังมีทั้งแบบที่เป็นแอ่งและหลังตัน ส่วนใหญ่จะปรากฏลายผ้าหยาบๆ

ในวันนี้ผมได้นำรูปพระหูยาน พิมพ์ใหญ่ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุลพบุรี มาให้ชมกันเช่นเคยครับ

ด้วยความจริงใจ  แทน ท่าพระจันทร์
ขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด ค่ะ
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ http://เว็บพระ.net/index.php

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น