วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ปลัดขิกบินได้ เครื่องรางหลวงพ่อยิด จันทสุวัณโณ

ปลัดขิกบินได้ เครื่องรางหลวงพ่อยิด
 
พันธุ์แท้พระเครื่อง
ราม วัชรประดิษฐ์

ปลัดขิก นับเป็นเครื่องรางของขลังที่ได้รับความนิยมอย่างหนึ่งสำหรับคนไทย ซึ่งมีการจัดสร้างกันหลายสำนัก แต่ที่มีความโดดเด่นเป็นที่นิยมแสวงหากันมาก โดยเฉพาะบรรดาตำรวจทหาร ก็ต้องยกให้ "ปลัดขิกหลวงพ่อยิด" วัดหนองจอก ต.ดอนยายหนู อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

หลวงพ่อยิด จันทสุวัณโณ หรือ พระครูนิยุตธรรมสุนทร เกิดเมื่อปี พ.ศ.2476 ในตระกูลศรีดอกบวบ อายุได้ 6 ขวบ บิดามารดานำไปฝากเป็นศิษย์ พระอาจารย์หวล ผู้เป็นหลวงน้า ที่วัดนาพรหม และได้บรรพชาเป็นสามเณรตอนอายุ 9 ขวบ โดยมี พระอธิการหวล เป็นอุปัชฌาย์ ศึกษาอักขระเลขยันต์และฝึกปฏิบัติสมาธิกับ พระอธิการหวล และ ครูหลี แม้นเมฆ

ท่านสนใจในด้านวิชาอาคมและสักยันต์ เป็นพิเศษ และได้ออกธุดงค์กับพระอุปัชฌาย์ตั้งแต่ยังเป็นสามเณรถึง 4 ปี จากนั้นได้ลาสิกขามาช่วยบิดามารดาทำไร่

ในช่วงนี้เองที่ท่านเริ่มมี ชื่อเสียงจากการ "สักยันต์" เนื่องจากเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน ได้ลองให้สักยันต์ให้ แล้วเกิดมีประสบการณ์มากมายจนเล่าสู่กันปากต่อปากและมีผู้มาสักยันต์มากขึ้น ขณะนั้นหลวงพ่อมีอายุประมาณ 17-19 ปี เท่านั้น

พออายุครบ 20 ปี จึงได้เข้าพิธีอุปสมบท มี หลวงปู่อินทร์ วัดยาง เป็นพระอุปัชฌาย์ และ พระอธิการหวล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่ศุข วัดโตนดหลวง เพื่อศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติม และยังได้ออก ธุดงควัตรไปตามสถานที่วิเวกต่างๆ จนเลยไปถึงฝั่งพม่านานหลายปีจนได้กลับมาวัดนาพรหม ในปี พ.ศ.2487

เมื่อ ได้ทราบข่าวบิดาป่วยจึงคอยดูแลจนกระทั่งบิดาเสีย และลาสิกขาออกมาเพื่อดูแลมารดาซึ่งแก่ชรามาก บรรดาลูกศิษย์เก่าๆ พอรู้ข่าวก็ได้มาสักยันต์กันเพิ่มขึ้นจนช่วงนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังมาก เมื่อโยมมารดาถึงแก่กรรมใน ปี พ.ศ.2518 ท่านจึงได้เข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้งที่วัดเกาะหลัก โดยมี หลวงพ่อเปี่ยม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา "จันทสุวัณโณ" เช่นเดิม

จากนั้นไปจำ พรรษาเป็นพระลูกวัดที่วัดทุ่งน้อย อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาชาวบ้านหนองจอก ต.ดอนยายหนู ทราบข่าวจึงยกที่ดินพื้นที่ป่าให้จำนวน 21 ไร่ 2 งาน เพื่อให้ท่านสร้างวัดขึ้น เมื่อบรรดาลูกศิษย์ที่ได้รับการสักยันต์และพวกที่เคยได้รับการรักษายา สมุนไพรได้ทราบข่าวต่างก็มาร่วมกันถางป่า พัฒนาจากพื้นที่รกทึบจนสร้างกุฏิและเสนาสนะขึ้นเป็นสำนักสงฆ์ และต่อมาได้พัฒนาเป็นวัดหนองจอกในปัจจุบัน

หลวงพ่อยิดได้ชื่อว่าเป็น นักพัฒนา ได้พัฒนาวัดหนองจอกจนเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้ท่านยังพัฒนาจิตใจและการศึกษาของเยาวชน โดยสนับสนุนด้านทุนการศึกษา ทุนอาหารกลางวันแก่โรงเรียนหลายแห่งใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งร่วมสร้างสาธารณ ประโยชน์แก่สถานที่ราชการและหน่วยราชการต่างๆ มากมาย

จนได้รับความ เลื่อมใสศรัทธาจากบรรดานายทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป พร้อมกันนั้นได้ขอรับวัตถุมงคล อาทิ ตะกรุด พระเครื่อง ฯลฯ เนื่องจากเชื่อกันว่าวัตถุมงคลของท่านมีพุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2538 สิริอายุ 71 ปี พรรษา 30

วัตถุมงคลที่ขึ้นชื่อก็คือ "ปลัดขิก" ที่เล่ากันว่าสร้างปาฏิหาริย์บินได้ จนเป็นที่นิยมกว้างขวางในหมู่ทหารและตำรวจ เพราะมีคติความเชื่อว่า "ใครมีปลัดขิกของหลวงพ่อยิดติดตัวแล้ว จะดีเด่นในด้านเมตตามหานิยม และแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง" อีกทั้งผู้บูชาได้ประสบเหตุการณ์ต่างๆ เป็นที่ปรากฏ ชื่อเสียงของหลวงพ่อยิดจึงโด่งดังมากตั้งแต่เมื่อครั้งที่ท่านมีชีวิตอยู่จน ถึงปัจจุบัน ถึงแม้ หลวงพ่อยิดท่านได้ละสังขารไปแล้ว แต่วัตถุมงคลของ หลวงพ่อยิดก็ยังคงเป็นที่นิยมเล่นหาบูชากันอย่างกว้างขวาง

ปลัดขิก หลวงพ่อยิด มีทั้งที่วัดแกะเองและชาวบ้านแกะมาถวาย มีอาทิ รุ่นเสาร์ 5 พ.ศ.2536, รุ่น เสกตะปูถอน ไตรมาส พ.ศ.2535 และปลัดขิกเนื้อโลหะที่ได้รับความนิยมอย่าง รุ่นเจริญพร พ.ศ.2537

ตอนนี้เนื้อทองคำอยู่ที่หลักหมื่นปลายๆ เนื้อนวะ เนื้อเงิน และเนื้อทองแดงอยู่ในหลักพันต้นๆ แล้วครับผม

ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ ข่าวสด ค่ะ
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่
http://เว็บพระ.net/index.php

คอลัมม์ข่าวนี้ทางเว็บเราไม่มี วัตถุมงคล หรือ พระเครื่องให้เช่าบูชา ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น