วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ชมรมพระเครื่อง แทน ท่าพระจันทร์

ชมรมพระเครื่อง
แทน ท่าพระจันทร์

สวัสดี ครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน วันนี้เราก็มาคุยกันถึงเครื่องรางของขลังกันบ้าง เรื่องที่เราจะคุยกันก็คือ กะลาราหูแกะ ส่วนมากเราก็จะรู้จักกันแต่กะลาราหูของวัดศีรษะทอง นครปฐม แต่ที่จริงกะลาราหูนั้นมีวัฒนธรรมความเชื่อมาช้านานและที่มีมากๆ นั้นก็อยู่ที่ทางล้านนาและล้านช้าง ซึ่งมีคติความเชื่อมาแต่โบราณที่มีการสร้างโดยพระเกจิอาจารย์ อีกทั้งอาจารย์ฆราวาสอีกมาก ความเชื่อเรื่องกะลาราหูนี้ เชื่อกันว่าจะช่วยคุ้มครองให้ผ่อนคลายคราวเคราะห์ร้ายให้เบาบางลงได้ โดยวันนี้ผมจะเล่าถึงพระมหาเมธังกร อดีตเจ้าอาวาสวัดเมธังกราวาส (น้ำคือ) และอดีตเจ้าคณะจังหวัดแพร่ ผู้สร้างกะลาราหูของทางล้านนาอีกรูปหนึ่งกันครับ

วัดเมธังกราวาส เป็นวัดที่สร้างมานานมาก ไม่มีบันทึกว่าสร้างตั้งแต่เมื่อใดมีเพียงการบอกเล่าว่า วัดเมธังกราวาส แต่แรกเริ่มเรียกว่า "วัดนางเหลียว" เข้าใจว่านางเหลียวเป็นผู้ถวายที่ดินให้เป็นที่ตั้งวัดในสมัยแรก ต่อมาด้วยเหตุที่วัดตั้งอยู่ติดกับคูเมือง สำเนียงคนเหนือว่า "คือเมือง" ต่อมา ชาวบ้านจึงมักเรียกวัดนี้กันว่า "วัดน้ำคือ" ในระยะต่อมาก็ได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้ง ตามสมณศักดิ์ของท่านอดีตเจ้าคณะจังหวัดเป็น "วัดเมธังกราวาส" จากการบอกเล่าสืบต่อกันมานี้ ก็พอจะสันนิษฐานได้ว่า วัดนี้น่าจะสร้างในราวปีพ.ศ.2325 ซึ่งในสมัยนั้นยังเป็นวัดขนาดเล็กตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองเข้าใจว่าผู้สร้าง วัดนี้น่าจะเป็นตระกูล "วังซ้าย"

ท่านเจ้าคุณพระมหาเมธังกร (พรหมเทโว) อดีตเจ้าคณะจังหวัดแพร่ เกิดเมื่อปีพ.ศ.2418 โยมบิดาชื่อชัยลังการ์ โยมมารดาชื่อเที่ยง ต่อมาเมื่ออายุครบบวช จึงอุปสมบทที่วัดน้ำคือ จังหวัดแพร่ โดยมีพระครูพุทธวงศาจารย์ วัดพระบาท เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอนุสาวนา จารย์และพระกรรมวาจาจารย์ไม่ปรากฏชื่อ ได้รับนามฉายาว่า "พรหมเทโว" ท่านได้สนใจในด้านการศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน แลพุทธาคม ท่านได้ศึกษากับพระครูพุทธวงศาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดในสมัยนั้น ท่านได้สอบนักธรรมสนามมณฑล ต่อมาในปีพ.ศ.2458 ท่านก็ได้เข้ารับการอบรมการศาสนาและคณะสงฆ์ในสำนักสมเด็จพระวันรัต วัดมหาธาตุ กทม. ท่านตั้งใจในการศึกษา จึงเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส และเป็นที่รักใคร่ของสมเด็จพระวันรัต วัดมหาธาตุ

พระมหาเมธังกรท่าน เป็นพระเถระผู้ทรงคุณวุฒิและเพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติ อันสมควรแก่การเคารพสักการะ ท่านเป็นพระรูปแรกที่ได้นำการปกครองคณะสงฆ์ ระบบใหม่มาเผยแพร่ ท่านได้ทำให้คณะสงฆ์ของจังหวัดแพร่เจริญก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ ในปีพ.ศ.2461 ท่านได้จัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม ให้พระภิกษุสามเณรได้ศึกษาเล่าเรียน อีกทั้งได้ตั้งโรงเรียนประชาบาลขึ้นในจังหวัดแพร่ ที่วัดของท่าน ชื่อโรงเรียนวัดเมธังกราวาส ท่านได้อุปการะโรงเรียนอยู่หลายปี ซึ่งทำให้เด็กๆ ได้มีที่ศึกษาเล่าเรียน และมีการศึกษาอย่างทั่วถึง

นอก จากนี้ ท่านยังได้เป็นผู้ดำเนินการสร้างพระวิหารวัดพระธาตุจอมแจ้ง และเป็นประธานกรรมการก่อสร้างพระวิหารพระธาตุช่อแฮอีกด้วย ท่านนับได้ว่าเป็นผู้สร้างความเจริญทางด้านการศึกษาทั้งของพระภิกษุสามเณร และชาวบ้านในจังหวัดแพร่ อีกทั้งยังได้สร้างถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนาอีกด้วย ชาวจังหวัดแพร่จึงเคารพรักท่านเป็นอย่างมาก ท่านได้ละสังขารในราวปีพ.ศ.2492 สิริอายุได้ 74 ปี พรรษาที่ 54

ทาง ด้านการสร้างวัตถุมงคลนั้น ท่านได้สร้างไว้ไม่มากนัก ได้แก่กะลาราหู โดยใช้กะลาตาเดียวมาแกะเป็นรูปราหูอมจันทร์ และราหูอมพระอาทิตย์ เป็นต้น ปัจจุบันหาชมได้ยากมาก เนื่องจากชาวจังหวัดแพร่นั้นต่างก็หวง แหนกันมาก

ในวันนี้ผมได้นำรูปกะลาราหูของท่านเจ้าคุณพระมหาเมธังกร จังหวัดแพร่ แบบต่างๆ มาให้ชมกันครับ
ด้วยความจริงใจ

ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ ข่าวสด ค่ะ
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่
http://เว็บพระ.net/index.php

คอลัมม์ข่าวนี้ทางเว็บเราไม่มี วัตถุมงคล หรือ พระเครื่องให้เช่าบูชา ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น